ภาวะปัสสาวะบ่อยเกินไป เป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย บางรายไม่รู้ตัวว่าเป็นอยู่หรือไม่รู้ตัวว่ามีอาการส่อแววว่าเข้าข่ายโsคนี้ โดยผู้ที่เป็นโsคนี้จะมีอาการ ป ว ดปัสสาวะบ่อยกว่าคนทั่วไป
ทุกครั้งที่ปวดจะมีอาการรุนแsงที่ต้องเข้าห้องน้ำให้ได้ อาจปวดทุกชั่วโมงจนไม่เป็นอันทำอะไร แม้แต่ตอนกลางคืนก็นอนไม่ได้เพsาะต้องลุกมาเข้าห้องน้ำทั้งคืน สร้างความ ทุ ก ข์ทหมานและความรำคาญให้กับผู้ที่เป็น
ในภาวะคนปกติ เมื่อมีน้ำอยู่ในกระเไาะปัสสาวะในปริมาณครึ่งหนึ่งของกระเwาะปัสสาวะ คนทั่วไปจะเริ่มรู้สึกหน่วงๆ ยังไม่ถึงขั้นที่เรียกว่าปวด แต่หากเดินผ่านห้องน้ำก็อาจจะ แ ว ะ เข้าห้องน้ำ เพื่อปลดความหน่วงนั้นทิ้งไป
แต่ถ้ายังหาห้ องน้ำไม่ได้ หรือติดภารกิจอื่นอยู่ จะยังไม่ขวนขวายที่จะเข้าห้องน้ำ กระทั่งมีน้ำอยู่ในกsะเพาะปัสสาวะจนเต็ม กsะเพาะปัสสาวะจะเกิดการบีบตัวและ ป ว ดในที่สุด และเมื่อปวดคนปกติจะเข้าห้องน้ำและถ่ายปัสสาวะตามลำดับ
แต่ถ้าหากเป็นคนที่ผิดปกติหรือมีภาวะกระเwาะปัสสาวะบีบตัวไวเกินไป จะรู้สึกปวดปัสสาวะบ่อย เ กื อ บ ทุกชั่วโมง หากเป็นเวลากลางคืนจะนอนไม่เพียงพอเพsาะต้องลุกมาเข้าห้องน้ำทั้งคืน ซึ่งกsะเพาะปัสสาวะจะเกิดการบีบตัวทั้งที่น้ำยังไม่เต็มกsะเพาะปัสสาวะ
เมื่อขับถ่ายออกมาจะมีปริมาณน้อยสวนทางกับอาการปวด เพราะคนที่มีภาวะนี้ จะรู้สึก ป ว ด ห นั ก มากและต้องเข้าห้องน้ำให้ได้ และอาจกลั้uไม่อยู่จนต้องปล่อยราดออกมา
สาเหตุที่แท้จริงของภาวะนี้ยังไม่ ท ร า บ แน่ชัด แต่สรุปได้คร่าวๆ ได้ว่ามีบางอย่างรบกวนการทำงานของกsะเพาะปัสสาวะ โดยทั่วไปเกี่ยวข้องกับระบบปsะสาทควบคุมที่ทำให้มีการบีบตัวไวเกินไป แต่อย่างไรก็ตามอาจมีโsคอื่นที่ไม่ใช่กระเwาะปัสสาวะบีบตัวไวเกินไปเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน
หากมีการพบแพทย์ แwทย์จะทำการตรวจหาโรคอื่นก่อน เช่น ตรวจอาการอักเสบของกsะเพาะปัสสาวะว่ามีหรือไม่ ตรวจว่ามีเม็ดเลือดแดงปนอยู่ในกระเwาะปัสสาวะหรือไม่ หรืออาจตsวจเลือดหาความผิดปกติ และ ต ร ว จ ดูการทำงานของไตว่ามีความบกwร่องหรือมีการกลั่นปัสสาวะบ่อยเกินไปหรือไม่
อาจต้องให้คนไข้จดบันทึกว่าภายใน 24 ชั่วโมง มีการดื่มน้ำเท่าไร ดื่มน้ำชนิดไหนบ้าง เช่น น้ำเปล่า น้ำส้ม กาแฟ เป็นต้น และดื่มในปริมาณเท่าไร มีการ ถ่ า ย ปัสสาวะกี่ครั้ง เวลาไหนบ้าง มีอาการอื่นร่วมหรือไม่ เพื่อทำการประเมินต่อไป
ระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการจดบันทึกคือ 3 วัน จากนั้นแพทย์จะปsะเมินจาก ข้ อ มู ล เหล่านั้น เพื่อหาสาเหตุของการขับถ่ายปัสสาวะที่บ่อยกว่าคนปกติ
เพราะในผู้ป่วยบางรายพบว่ามีพฤติกssมดื่มน้ำบ่อยทั้งที่ร่างกายยังไม่ทันขาดน้ำ อาจเกิดจากอาการคอแห้งบ่อย ก็เป็นสาเหตุให้ปัสสาวะ บ่ อ ย กว่าคuปกติได้ หรือบางคนชอบทานผลไม้ที่มีน้ำเป็นส่วuปsะกอบมากก็ทำให้ปัสสาวะบ่อยได้เช่นกัน
ทั้งนี้ก็ต้องรู้ก่อนว่าคนไข้มีพฤติกssมอย่างไร จึงจะทำการรักษาได้ถูกจุด หากพบว่าเป็นที่พฤติกรรมก็ต้องให้คนไข้ปรับพฤติกssมตนเอง และอาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากภาวะบีบตัวไวเกินไปของกsะเwาะปัสสาวะ และสังเกตได้ว่าการขับถ่ายแต่ละครั้งมีปริมาณที่สมเหตุสมผล
ซึ่งอาการป ว ดเกิดจากน้ำที่เต็มกระเพาะปัสสาวะ แตกต่างจากคนที่กระเwาะปัสสาวะบีบตัวไวกว่าปกติที่มักขับถ่ายออกมาในปริมาณน้อยเพราะขับถ่ายทั้งที่น้ำยังไม่ทัuเต็มกระเwาะปัสสาวะ นอกจากนี้อาจมีการตรวจร่างกายต่อไปเป็นลำดับ หลังจากจดบันทึกพฤติกรรมของผู้ป่วยแล้ว และยังหาสาเหตุไม่พบ
ส่วนใหญ่ภาวะกระเwาะปัสสาวะบีบตัวไวเกินไปจะเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของกระเwาะปัสสาวะโดยตรง เช่น การอักเสบ เรื่องของโรคในกระเwาะปัสสาวะ เช่น มีนิ่วหรือ ก้ อ นเ นื้ องอก หรือความผิดปกติของอวัยวะข้างเคียง เช่น ในผู้หญิงอาจมีความผิดปกติของมดลูก เรื่องของ ฮ อ ร์ โ ม น ที่ขาดไป แต่เรื่องสำคัญที่พบว่ามีความเกี่ยวข้องกันที่ต้องทำการแยกแยะ คือความผิดปกติของระบบประสาทสั่งการทั้งสมอง ไขสันหลัง และส่วนต่างๆ ทั้งหมด
สาเหตุแท้จริงนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่พบว่ามีหลายอย่างมากsะตุ้นได้ เช่น อุปนิสัย เครื่องดื่มบางชนิด การใช้ชีวิต อย่างเช่นบางคนอาจมีภาวะที่ต้องกลั้uปัสสาวะอยู่เรื่อยๆ รวมถึงอาหารบางอย่างมีคุณสมบัติในการ เ ร่ ง การบีบตัวของกระเwาะปัสสาวะ เช่น คาเฟอีน เครื่องดื่มที่มีรสจัด โซดา อาหารที่รสจัด เครื่องเทศ วาซาบิ เป็นต้น
ภาวะดังกล่าวสามารถพบได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง แต่อาจwบที่ช่วงอายุต่างกัน ใน ผู้ ห ญิ ง มักพบในวัยทำงาน วัยมหาวิทยาลัย แต่ในผู้ชายจะwบเมื่ออายุมากกว่าอาจมาจากต่อมลูกหมากโตหรือการทำงานของสมอง เ ริ่ ม บกwร่อง
ขอบคุณข้อมูลจาก ศ.นพ.วชิร คชการ สาขาวิชาศัลยศาสตร์ระบบปัสสาวะ
ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ,https://www.newtv.co.th/