“ยินดีต้อนรับเพื่อนๆ เข้าสู่เว็ปไซต์ ที่รวบรวมเรื่องเก่า ข่าวบันเทิง ประวัติคนดัง เรื่องเล่าในอดีต และความรู้มากมายเอาไว้ที่นี่”
มันไม่ง่ายเลยสำหรับการปลูกต้นกระชาย ให้โตได้มีกอใหญ่ ๆ เหง้าใหญ่ จะเป็นยังไงไปดูกันเลยครับ
การปลูกและการเตรียมดิน
สำหรับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการปลูกกระชาย คืออากาศร้อนชื้นมักชอบดินร่วนปนทราย ไม่ชอบดินเหนียวดินลูงรังไม่เหมาะกับกระชายเลย และควรจะปลูกกลางแจ้งเวลาที่แตกหน่อแตกเหง้า
จะได้ขยายได้เยอะๆต่อไปเป็นการเตรียมดินก็พรวนดิน ให้ร่วนซุยเพราะว่ากระชายจะต้องอยู่กับ ดินที่ระบายน้ำได้ดีและปลูกได้เลยไม่ต้องยกร่องก็ได้
จะเตรียมดินให้ดีคือควรจะไถจะพรวนต้นหน้าฝน เลยแต่ก็ยกร่องหน่อยระหว่างแถว 75 เซนติเมตรระหว่างต้น 30 เซนติเมตร
ช่วงการปลูก
การจะปลูกกระชายให้โตเร็วช่วงที่เหมาะนั้นจะเป็นประมาณ เม.ย. – พ.ค. แล้วช่วงต้นฤดูหนาวช่วงปลายเดือน ธ.ค .– ม.ค. จะเป็นเวลาที่เก็บหัวกระชายแล้วเวลา
จะปลูกนั้นควรเลือกหัวพันธุ์กระชายอายุ 7–9 เดือนที่มีตาสมบูรณ์ไม่มีแมลงไม่มีโรค และแบ่งหัวออกโดยการหั่นเลยโดยเหง้าควรมีตาสัก
3–5 ตาหรือแง่งและมีน้ำหนักประมาณ 15–50 กรัมเอาไปแช่น้ำปูนใสก่อนจะเอาไปปลูก
ระยะห่างของแต่ละต้นนั้นควรจะเป็น 30×30 เซนติเมตรในส่วนของการชุดหลุมนั้นก็ให้ได้ หลุมกว้าง 15x15x15 เซนติเมตรและใช้ปุ๋ยคอกในการบำรุงรอง ก้นหลุมเอาไว้ก่อนปลูกใส่ประมาณหลุมละ
200 กรัมเสร็จแล้วก็เอาหัวกระชายที่เตรียม ไว้ลงหลุมกลบเพื่อปลูกได้เลยต่อด้วยหาฟาง หรือหญ้าคามาคลุมแปลงเอาไว้หนาประมาณ 2 นิ้วเป็นการรักษาความชื้นในดิน
และใส่ปุ๋ยตอนที่เริ่มงอกแล้วและอย่าลืมจัด การหญ้าวัชพืชที่ขึ้นมาด้วยทำการพรวนดิน โคนแถวพอครบ6เดือนก็เริ่มขุดได้แล้ว
สรรพคุณของกระชายมีทั้งหมด 5 อย่าง
1. ช่วยบรรเทาโรคกระเพาะอาหารอักเสบโดยทานสดแบบไม่ต้องปอกวันละ3มื้อก่อนอาหาร15นาที
2. ช่วยรักษาแผลในปากได้โดยใช้กลั้วปากเหมือนน้ำยาบ้วนปากเลย
3. ช่วยแก้เชื้อรากลากเกลื้อนแก้คันศีรษะน้ำกัดเท้าได้ดีโดยเอาน้ำมันผสมกับกระชายมาทาได้เลย
4. ช่วยลดน้ำตาลในเลืoดโดยเอามาฝั่นแล้วผสมน้ำผึ้งเป็นก้อนแล้วทานวันละ3ลูกก่อนนอน
5. ช่วยในการบำรุงหัวใจเพียงเอามาชงโดยเอาเหง้าไปตากแห้งแล้วชงดื่มเหมือนชาเลย
หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่านที่สนใจจะปลูกต้นกระชายสมุนไพรชั้นยอดที่เราปลูกไว้ทานเองในบ้านได้และเราจะเอากระชายมาประกอบอาหารตอนไหนก็ได้ไม่ต้องเสียเงินซื้อให้ยากเลย
ข้อมูลมีการสืบค้นจากอินเตอร์เน็ต และบางบทความอ้างอิงหนังสือ หรือมีการเล่าต่อกันมาเป็นทอดๆ หากผิดพลาดประการใด ทีมงาน ปัญญาชีวิตดอทคอม ต้องกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
ขอบคุณที่มา:kasetchaoban