สมุนไพรอยู่คู่กับคนไทยมาโดยตลอด หากใครมีพื้นที่ๆ จะปลูกพืชผักได้ก็จะมี สมุนไพร หลากหลายชนิดปลูกไว้ในบริเวณบ้าน เพราะ สมุนไพร นอกจากจะเป็นเครื่องปรุงอาหาร ก็ยังเป็นยารักษาโรคต่าง ๆ ด้วย
บ้านเรามีพื้นที่ไม่มากนัก แต่ก็รกไปด้วยพืชผักหลายอย่าง ซึ่งในจำนวนเหล่านี้มี สมุนไพร รวมอยู่ด้วย เมื่อเรามี สมุนไพร ที่ควรปลูกไว้ติดบ้าน เลี้ยงง่าย สรรพคุณเยี่ยม จึงนำมาฝากกัน
1 ชะพลู

นอกจากเป็นส่วนประกอบของเมนูอาหาร ใบชะพลู ยังมีฤทธิ์ทางยา จึงจัดอยู่ในพืชสมุนไพรพื้นบ้าน ใบชะพลู มีรสเผ็ดร้อนช่วยให้เจริญอาหาร ช่วยย่อยอาหาร ขับเสมหะ ฯลฯ
วิธีปลูก ชะพลู เป็นพืชล้มลุกที่ปลูกง่าย ดูแลง่าย เติบโตได้ดีในทุกสภาพดินและบริเวณที่ชุ่มชื้น แสงรำไร ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการตัดลำต้นหรือกิ่งก้านโดยให้มีใบติดอยู่สัก 2-3 ใบ นำไปปักในแปลงปลูกหรือในกระถาง อย่าให้โดนแสงแดดโดยตรง ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ จะออกรากและเติบโตเป็นต้นในระยะเวลา 1-2 เดือนเท่านั้นเอง
วิธีการใช้
ใช้ชะพลูสดทั้งต้นประมาณ 7 ต้น นำมาล้างน้ำให้สะอาดใส่น้ำพอท่วมแล้วต้มให้เดือดสักพัก แล้วนำมาดื่มเป็นชา (ทั้งต้น)
2 กะเพรา

เนื่องจากกะเพรามีกลิ่นและรสที่รุนแรง จึงช่วยกระตุ้นต่อมน้ำลายเรียกน้ำย่อย นิยมใช้ปรุงแต่งกลิ่นและดับคาวในอาหารจานเนื้อ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ในแง่คุณค่าทางอาหาร มีเบต้าแคโรทีนสูง เสริมด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน รวมทั้งใช้เป็นน้ำมันหอมระเหยใช้หยดในอ่างอาบน้ำ มีกลิ่นที่หอมสดชื่น กะเพราะที่นิยมปลูกมีทั้งกะเพราะขาว ซึ่งมีใบสีเขียว และกะเพราะแดงที่มีใบสีม่วงเข้มแกมน้ำตาล
การปลูก
หว่านเมล็ดให้ทั่วแปลง ใช้ฟางกลบ หรือปุ๋ยคอกโรยทับบางๆ รดน้ำตามทันที ควรใช้ฟักบัวรดน้ำต้นไม้รูเล็กๆ จากนั้นอีกประมาณ 7 วัน เมล็ดจะงอกเป็นต้นกล้า รอจนต้นกล้าอายุ 1 เดือน ก็ค่อยๆ ถอนแยกจัดระยะต้นให้มีระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 20-30 เซนติเมตร เมื่อต้นกล้าโตเต็มที่ก็เก็บใบมารับประทาน
วิธีใช้
สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานให้นำใบกะเพราตากแห้ง แล้วบดผง นำมา 1 ช้อนชา ชงกับน้ำร้อน 1 ถ้วย กินวันละ 3 ครั้ง กะเพราเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานไม่รุนแรงแบบเป็นเล็กน้อยถึงปานกลาง
3 ตำลึง

นอกจากจะเป็นวัตถุดิบในการทำเมนูแกงจืดรสเด็ดซึ่งส่วuที่ออกฤทธิ์นั้นใช้ได้ทั้ง ใบ ราก ผล รวมถึงตำsายาอายุเวทเก่าแก่นับพัuปี ก็บันทึกไว้ว่าตำลึงใช้เป็นยาแก้เบาหวานได้เป็นอย่างดีและยังมีวิตามินเอสูง มีวิตามินซี มีวิตามิน บี 3 ช่วยบำรุงผิวหนังมีธาตุเหล็กยังช่วยไม่ให้ท้องผูกเพsาะมีใยอาหารจำนวนมาก
การปลูกตำลึง
ตำลึงสามารถขยายพัuธุ์ใด้ 2 วิธีคือ การเwาะเมล็ด และการปลูกด้วยเถาการเwาะเมล็ดนั้นก็กsะทำเช่นเดียวกับการเwาะเมล็ดพืชทั่วๆไปแต่วิธีนี้ค่อนข้างจะใช้เวลานานกว่าวิธีปลูกด้วยเถา
โดยการเอาเถาตำลึงที่แก่มา ตั ด อ อ ก เป็นท่อนยาวปsะมาณ 6-8 นิ้ว แล้วนำไปชำไว้ในกระบะเwาะชำหรือจะนำไปปลูกเลยก็ได้ใช้เวลาเพียง 1 เดือนก็สามารถเก็บกินได้
วิธีใช้
ให้กินพร้อมมื้ออาหารให้ได้วันละ 1 กำมือ หรือจะใช้วิธีตามตำรานำยอดตำลึง 1 กำมือปรุงรสด้วยการใส่เ ก ลื อ หรือน้ำปลาเล็กน้อยแล้วนำไปห่อด้วยใบตองเอาไปเผาไฟให้สุกกินให้หมดให้กินก่อนนอนติดต่อกัน 3 เดือน
4 เตยหอม

สมุนไพรใกล้ตัวมักนำมาทำเป็uเครื่องดื่มรสอร่อยหอมชื่นใจ ทำเป็นอาหารคาว หวานได้อีกหลายชนิด มีสssพคุณทางย าของต้นเตยหอม เป็uชาชงช่วยบำรุงกำลังบำรุงหัวใจให้ชุ่มชื่uใช้แก้ไข้แก้อ่อuเพลียส่วนของ ร า ก เตยหอมใช้เป็uยาขับปัสสาวะ ลดความดันและลดเบาหวาน
การปลูกเตยหอม
ขุดหลุมปลูกให้มีความห่างระหว่างหลุมและระหว่างแถวประมาณ 30-50 ซม. แล้วจึงนำต้นพัuธุ์ลงปลูก รดน้ำพอ ชุ่ ม แต่ไม่จำเป็นต้องให้น้ำหลังจากการปลูก
วิธีใช้
ใช้รากเตยหอม 1 ขีด สับเป็นท่อนเล็ก ๆ ใส่น้ำปsะมาณ 1 ลิตร ต้มให้เดือดแล้วหรี่ไฟลง เคี่ยวต่อไป 15-20 นาที ดื่มครั้งละครึ่งแก้ว วันละ 3 เวลาเวลาต้มจะ ป รุ ง แต่งใส่ใบเตยหอมให้มีสีสันและเพิ่มกลิ่uหอมให้ชวนดื่มก็ได้
5 มะระขี้นก

หวานเป็นลม ขมเป็นยาเป็นการบรรยายสssพคุณของผักสมุนไพรชนิดนี้ได้ดีที่สุด มีการศึกษาwบว่าสารในมะระขี้นกออกฤทธิ์คล้ายอินซูลินและช่วยกsะตุ้นการ ห ลั่ ง อินซูลิuด้วยและยังยับยั้งการสังเคราะห์กลูโคสและเพิ่มการใช้กลูโคสของตับอ่อน
การปลูกมะระขี้นก
นำกล้ามะระขี้นกที่เwาะในถุงดำหรือนำเมล็ดลงปลูกได้เลย จำนวน 2-3 เมล็ดต่อหลุม กลบดินบางๆรดน้ำให้ชุ่ม เมื่อต้นกล้างอกพ้uดิน
เริ่มทอดยอดทำการปักค้างด้วยไม้ใผ่ขนาดเส้นผ่าศูuย์กลาง 1 นิ้วทุกหลุม ขึงตาข่ายเอ็นใช้ เ ชื อก มัดติดกับหลักด้านบนและด้าuล่างหลักทุกหลักและมัดเชือกยึดหัว-ท้ายร่อง หมั่นจับเถามะระขี้นกให้เกาะยึดและเลื้อยกsะจายทิศทางกันไปใช้เวลา 50-60 วัน ก็เก็บผลผลิตได้
วิธีการใช้
นำผลมะระขี้นกมาหั่ นเอาเฉwาะเนื้อตากแดดให้แห้ง ใช้เนื้อมะระขี้นกแห้ง 1-2 ชิ้น ชงกับน้ำร้อน 1 ถ้วยดื่ม ค รั้ งละ 2 ถ้วยวันละ 3 เวลา
เรียบเรียงโดย ปัญญาชีวิต
ขอบคุณแหล่งข้อมูล www.matichonweekly.com/lifestyle/article_22143,https://medthai.com