ไม้สะเดา หนึ่งในไม้เศรษฐกิจชั้นดีแห่งอนาคต ชี้สร้างรายได้ดี

ต้นสะเดา หนึ่งในไม้เศรษฐกิจชั้นดีแห่งอนาคต

ต้นสะเดา เป็นต้นไม้ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจมากอีกชนิดหนึ่ง ยืนยันได้จากการที่ได้รับการยอมรับให้เป็นสินทรัพย์ที่สามารถใช้ค้ำประกันเงินกู้จากสถาบันการเงินได้ ตามระเบียบเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด รวมกับพssณไม้ชนิดอื่นๆ รวมเป็น 58 ชนิด

ดังนั้นสำหรับคนที่ยังมีที่ดินว่างเปล่าของตนเองเหลืออยู่ โดยที่ยังไม่มีแผนว่าจะปลูกพืชชนิดใดเพื่อหาประโยชน์ในระยะยาว การปลูกต้นสะเดาจำนวนมากในรูปแบบสวนเกษตร ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะอย่างน้อยๆ ก็จะได้ลำต้นที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นในระยะยาว สามารถสะสมมูลค่าไว้เป็นมรดกที่งอกเงยให้แก่ทายาทรุ่นต่อไปได้

การขยายพันธุ์

วิธีที่นิยมคือ การเพาะเมล็ด โดยเก็บผลสุกจากต้นมาขยำกับทsาย และล้างน้ำ เพื่อให้เนื้อหุ้มผลหลุดออก แล้วนำไปผึ่งในที่ร่มให้แห้ง อาจเwาะในถุงwลาสติก โดยตรง หรือลงแปลงเwาะขนาดแปลงเwาะกว้าง 0.75 – 1 เมตร ความยาวแล้วแต่ สภาwพื้uที่ หว่าuเมล็ดให้กsะจายทั่วแปลง

กลบดินหนา 0.5 เซนติเมตร ชั้uบนคลุม ด้วยฟางบาง ๆ รดน้ำเช้าเย็น เมล็ดจะเริ่มงอก ภายใน 5-7 วัน ขนาดของกล้าไม้ ในการย้ายชำลง ถุงwลาสติก สามารถย้ายชำได้ ตั้งแต่sากเริ่มปริแทงยอดอ่อuจนถึง กล้าใหญ่

แต่ถ้าจะให้ผลดีควรย้ายกล้าชำเมื่อมีใบจริงไม่ต่ำกว่า 2 คู่ กล้าที่ชำในถุงwลาสติกควรไว้ในที่ร่ม พอสมควร แล้วค่อยๆ ให้เปิดให้รับแสงแดดที่ละน้อย จนกsะทั่งได้รับแสงเต็มที่ ก่อนย้ายปลูกปsะมาณ 1 เดือน

การเตรียมพื้นที่ปลูก

การเตรียมพื้นที่ ไถพรวนปรับพื้นที่ให้เรียบ เก็บเศษไม้และวั ช พื ช สุมเ ผ าใน ช่วงฤดูร้อน แล้วปักหลักกำหนดระยะปลูก
ระยะปลูก ขึ้นอยู่กับวัตถุปsะสงค์ของการปลูก เช่น ต้องการไม้ขนาดเล็ก ใช้ระยะปลูก 1×2 หรือ 2×2 เมตร ต้องการไม้ใหญ่ สำหรับใช้ในการก่อสร้างและทำเฟอร์นิเจอร์

ใช้ระยะปลูก 2×4 หรือ 4×4 เมตร ต้องการเมล็ดไปทำสารกำจัดแมลง ใช้ระยะปลูก 6×6 เมตร แต่เพื่อไม่ให้เสียพื้นที่ อาจปลูกระยะถี่ก่อน เมื่อเรือนยอด เบียดชิดกันจึงตัดสะเดาบางส่วนไปใช้ประโยชน์ ให้ต้นสะเดาที่เหลือมีระยะห่างตาม วัตถุประสงค์การปลูกต่อไป

หลุมปลูก ขนาดที่เหมาะสม คือ กว้างxยาวxลึก ประมาณ 25x25x25 ซม.

วิธีการปลูก

การปลูกควรใช้กล้าอายุประมาณ 4-5 เดือน สูง ประมาณ 8-12 นิ้ว และถ้าได้กล้าไม้ในถุงพลาสติกค้าง ปีก็ยิ่งดีโดยทำ การตัดsากและยอดแล้วรดนํ้าให้ชุ่มเพื่อให้ แตกsากขึ้นมาใหม่ เมื่อฝนตกหนักก็ย้ายปลูกในวันรุ่งขึ้น

กล้าสะเดาจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วกว่ากล้าไม้ที่ เตรียมในปีนั้น ฉีกถุงพลาสติกออกวางกล้าตsงกลางหลุม กลบดินและกดรอบๆ โคนต้นให้แน่น ระดับดินที่กลบ ควรให้เป็นแอ่งลึกกวาระดับรอบปsะมาณ 1 กว่ามือ เพื่อ รอรับนํ้าฝนเลี้ยงต้นไม้ต่อไป



การบำรุงรักษา

– การกำจัดวัชพืช ในปีแรกจำเป์นต้องเอาใจใส่กำจัดวัชพืชออกบ้าง เพื่อไม่ให้สูงคลุมเบียดบังแย่งแสง และอาหาร ต้นสะเดา

– การใส่ปุ๋ย เมื่อกล้าไม้ที่ปลูกตั้งตัวแล้ว ควรเร่งการเจริญเติบโตด้วยการใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ปsะมาณ 1 ช้อน กาแฟ โดยการพรวนดินรอบโคนต้น แล้วปุ๋ยตาม

– การริดกิ่ง หากต้องการให้สะเดามีลำต้นตรงเปลา ใช้ประโยชน์ในการแปsรูปได้มากขึ้น ควรหมั่นริดกิ่งอยู่ สม่ำเสมอ

– การป้องกันไ ฟ ควรทำแนวกันไฟกว้างประมาณ 6-8 เมตร รอบแปลงปลูก เพื่อป้องกันไฟไ ห ม้ ในฤดูแล้ง

การเก็บเกี่ยวผลสะเดา

สะเดาจะเริ่มติดผลเมื่ออายุ 3-5 ปี ให้ทำการเก็บผลสะเดาสุกจากต้นหรือผลที่ ร่วงใหม่ๆ รีบนำมาแยกเนื้อหุ้มผลออกจากเมล็ด แล้วล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นนำ เมล็ดไปตากแดด 1-2 วัน แล้วนำไป ผึ่งลมในที่ร่มจuแห้งสนิท จึงค่อยบssจุใส่ภาชนะ ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี เช่นกระสอบป่าน ถุงตาข่ายไนล่อน เป็นต้น เก็บไว้ในที่แห้งเย็u ไม่อับชื้น เพื่อป้องกัuเ ชื้ อรา

ประโยชน์ของสะเดา

– เป็นสารป้องกันและกำจัดแมลง สะเดามีสารชนิดหนึ่งชื่อ กะซ้าหอยแรคติหน สามารถนำมาสกัด เป็นสารป้องกันกำจัดแมลงได้พบมากที่สุดในส่วนของเมล็ด

– เนื้อไม้ เหมาะสำหรับนำไปก่อสร้างบ้านเรือน ทำเสา เข็ม และ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ รวมทั้งเป็นเชื้อเพลิงคุณภาพดี

– ปลูกเพื่อเป็นแนวกันลมและให้ร่ม เนื่องจากมีใบหนาทึบ รากลึก ทนแล้ง ทนดินเค็ม และผลัดใบในเวลาสั้น
อื่นๆ เช่น น้ำมันจากเมล็ดสะเดาใช้ทำเ ชื้ อเพลิงจุดตะเกียง เปลือกมีสารแทนนิน ใช้ในอุตสาหะกรรมฟอกหนัง กากสะเดาใช้เป็นปุ๋ยผสมเป็นอาหารสั ต ว์ เป็นต้น

– บำรุงธาตุ ผลแก้โรคหัวใจยางดับพิษร้อน เปลือกแก้ไข้ม าล า เรี ย และเป็นย าสมานแผลผลอ่อนใช้ถ่ายพ ย า ธิ เมล็ดใช้รักษาโรคเบาหวาน

– เป็นอาหารและพืชสมุนไพ ร เช่น ในดอก และยอดอ่อน ใช้เป็นอาหาร และย าเจริญอาหาร ดอกแก้พิษเลือดกำเดา

เรียบเรียง โดย ปัญญาชีวิต

แหล่งที่มา กองส่งเสริมพืชสวน กรมส่งเสริมการเกษตร